cropped-213040518_2598906993747382_5945162630590011101_n-1.jpg
"ปรุงดิน-หมักดิน กับการปลูกผัก"

แอดมินลุงเต่า
02.07.2020

          เย็นนี้จะมาชวนคุยเรื่อง"ดิน"กัน อาจจะยาวนิดนึงเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้ทุกคนใส่ใจ ขอออกตัวก่อนนะครับว่าแอดมินเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องดินซักเท่าไหร่ เพราะทำสวนใส่กระถางที่คอนโด ก็ไม่สามารถจะลองทำอะไรเกี่ยวกับดินได้มากมายนัก ข้อมูลที่เตรียมมาคุยวันนี้จะเป็นข้อมูลที่ได้ฟังได้อ่านมาซะเป็นส่วนมากนะครับ
 
          พืชผักหรือต้นไม้โดยทั่วไปจะเจริญเติบโตได้ดี ปัจจัยหลักๆคือต้องมี แสงแดด อากาศ น้ำ ธาตุอาหาร ที่พอเหมาะกับพืชแต่ละชนิด ซึ่ง 3 ปัจจัยหลังนี่แหละ เป็นสิ่งที่อยู่ในดิน และพืชจะใช้รากเป็นตัวดูดซึมน้ำและธาตุอาหารขึ้นมาเลี้ยงให้มันเจริญเติบโต (ไม่นับการให้ปุ๋ยทางใบนะ อันนั้นผิดธรรมชาติ จะปลูกกินแบบปลอดภัยทั้งที มาใช้วิธีธรรมชาติดีกว่า)
 
          แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งคิดว่าแค่ในดินมีธาตุอาหารแล้วพืชจะโต ความจริงคือธาตุอาหารในดินส่วนใหญ่นั้น อยู่ในสภาพที่รากพืชไม่สามารถดูดไปใช้ได้ จึงต้องขอแนะนำเพื่อนแท้ของพืชอีกอย่างคือ "จุลินทรีย์" ใครเรียนสายวิทย์น่าจะพอรู้จัก จุลินทรีย์ คือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เอาง่ายๆคือพวก แบคทีเรีย ไวรัส รา ยีสต์ โปรโตซัว อะไรพวกนี้แหละ ซึ่งดินตามธรรมชาติ ก็จะมีจุลินทรีย์พวกนี้อาศัยอยู่ และจุลินทรีย์พวกนี้ คือผู้ทำหน้าที่ย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันอยู่ให้กลายเป็นปุ๋ยในดิน และทำหน้าที่ย่อยธาตุอาหารในดินให้อยู่ในสภาพที่พืชนำไปใช้ได้ จุลินทรีย์บางชนิดช่วยผลิตฮอร์โมนที่ทำให้รากพืชแข็งแรง บางชนิดช่วยป้องกันโรคพืช แต่จุลินทรีย์ก็มีทั้งตัวดี และไม่ดี โรคพืชหลายอย่างก็เกินจากจุลินทรีย์ที่ไม่ดีนี่แหละ
 
          สำหรับลักษณะของดินที่ใช้ปลูกพืช จะมีส่วนประกอบคร่าวๆ 4 ส่วน คือ
          1. น้ำ (ความชื้น) 25%
          2. อากาศ 25%
          3. แร่ธาตุ 45%
          4. อินทรียวัตถุ (ซากพืชซากสัตว์ และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ) 5%
 
          ถึงตรงนี้หลายคนอาจเริ่มมีคำถามว่า แล้วจะไปหาดินที่ดีแบบที่ว่าได้จากไหน ที่ไหนมีขาย หรือ ดินยี่ห้อไหนดี ต้องบอกว่า แอดมินยังไม่เคยเจอดินขายตามร้านที่แบบว่า แกะถุงเทใส่กระถางเอาไปปลูกเลยแล้วได้ผักงามแน่นอน เพราะเท่าที่เคยซื้อมา ก็ต้องมาผสมเองให้ได้ลักษณะดินที่ต้องการอีกอยู่ดี สำหรับใครที่มีพื้นดินอยู่รอบๆบ้าน ก็ตั้งต้นจากดินตรงนั้นแหละ แล้วลองดูว่าควรใส่อะไรเพิ่ม เช่น หาใบไม้แห้ง กิ่งไม้เล็กๆมาผสม เพื่อช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุ และให้ดินมันโปร่งขึ้น หรืออาจใส่กาบมะพร้าวสับชิ้นเล็กๆ ก็ช่วยเก็บความชื้นได้มากขึ้น ส่วนจุลินทรีย์เนี่ยก็มีขายนะ เห็นหลายแบบหลายยี่ห้ออยู่ ถ้าซื้อมาก็อ่านสัดส่วนผสมกับวิธีใช้ดีๆนะ แต่ถ้าใครที่ไม่มีดินเลย ต้องไปซื้อตามร้านทั้งหมด ก็ลองดูร้านที่เค้าแกะถุงดินตัวอย่างไว้ จะได้ดูว่ายี่ห้อไหนเป็นยังไง ควรเอาไปผสมอะไรอีก แต่ถ้าใครไม่คุ้นเคยกับดินเลย อันนี้คงต้องให้คนขายแนะนำแหละว่าควรซื้ออะไรไปผสมบ้าง ครั้งแรกอาจจะโดนหลอกขายของก็ต้องทำใจหน่อย ให้เริ่มได้ปลูกก่อนแล้วค่อยๆสังเกตเอาว่าควรต้องเพิ่มต้องปรับอะไรบ้าง ทุกอย่างจะเรียนรู้ได้ต่อเมื่อลงมือทำนี่แหละ
 
 
          อ้อ เดี๋ยวนี้เห็นในห้างมีขายดินพร้อมปลูกเหมือนกัน แต่แอบแพงนิดนึง แอดมินก็เพิ่งซื้อมาลองอยู่ แกะจากถุงใส่กระถางแล้วปลูกเลย ได้ผลยังไงแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีนะ ถ้าปลูกได้จริงๆก็อาจเป็นทางเลือกสำหรับหลายๆคนที่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไงก็ได้
 
          ย้อนกลับไปคำพูดที่ quote ไว้ตอนแรก "เลี้ยงดิน ให้ดินเลี้ยงพืช" เป็นคำที่มักจะได้ยินในวงเสวนาเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ แอดมินได้รับการขยายความคำพูดนี้จากคุณเปิ้ล ไร่รื่นรมย์ และ คุณพอต ไร่สุขพ่วง ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วสิ่งที่เราต้องดูแลคือดิน ต้องเลี้ยงให้ดินมีชีวิต มีอากาศ มีความชื้น มีจุลินทรีย์ที่ดี มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆในดิน เพราะเมื่อดินดีแล้ว มันจะทำหน้าที่เลี้ยงให้พืชเราเติบโตและแข็งแรงเอง เป็นหลักการทำเกษตรอินทรย์แบบยั่งยืน ถ้าใครสนใจทางนี้จริงๆก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะ
 
Share this article

Similar Posts